
จากกรณีที่ นายชลวิทย์ หิรัญชัชวาลย์ หรือเสี่ยเอ็ม ได้ขับรถหรูปอร์เช่ชนสามีภรรยาคู่หนึ่ง เมื่อเดือนเมษายน 2560 จนทำให้ฝั่งภรรยาต้องเข้ารับการรักษาตัว ทั้งฟันหัก 11 ซี่ กรามหัก และได้รับบาดเจ็บ
สาหัส รวมทั้งเสี่ยเอ็มยังเคยขับรถมินิคูเปอร์ชนหนุ่มคนหนึ่ง จนเกือบเป็นอัมพาต ต้องผ่าตัดกระดูกสันหลังและรักษาตัวนานกว่า 6 เดือน จนอาม่าเองก็ได้มาออกรายการ ต่างคนต่างคิด และบอกว่า หากฟ้องศาลเรียกเงินจริง ก็คงไม่มีเงินพอจะไปชดใช้ให้ใครอีก

นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินที่เสียหายอีกมาก อาทิ โทรศัพท์มือถือ ที่หน้าจอแตกละเอียด รวมถึงไอแพด ที่กลายเป็นแท็บเล็ตเปื้อนเลือดเป็นทางยาว โดยฝ่ายหญิงยังบอกว่า เสี่ยเอ็มได้เอาเงินไปอีก 150,000 บาท พร้อมกับบอกว่าจะไม่มีการคืนให้ ถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์มากมาย ว่าทำไมเสี่ยเอ็มยังไม่ถูกดำเนินคดี และออกมาก่อเหตุซ้ำ ทั้งที่เพิ่งมีข่าวขับรถหรูชนคนอื่นไม่รับผิดชอบ พร้อมกับการเร่งให้มีการดำเนินคดีกับเสี่ยเอ็มโดยเร็วที่สุด
โดยโพสต์ของ joladhee rajatabhaiboon ระบุไว้ว่า
มีบ้างไหมความเป็นคน เป็นลูกผู้ชาย….เรื่องนี้เกิดขึ้นกับน้องสาวแท้ๆของผมเอง เนื่องจากน้องผมถูกผู้ชายทำร้ายร่างกาย ซึ่งก็คือแฟนของเธอเอง ซึ่งคือ นาย ชลวิท.. หิรัญชัชว…..โดยที่เธอกำลังตั้งครรภ์ได้สองขวบเดือนกว่าแล้ว ขอย้ำ ท้องอยู่ และคนที่ซ้อมคือพ่อของเด็กในท้อง และย้ำ ว่าเค้าทำร้ายร่างกายทั้งที่รู้ว่าท้อง ในขณะที่น้องผมโทรหาผม แชทหาผม เล่าถึงสิ่งที่เธอกำลังเผชิญ และ ผมได้ยินกับหู ชัดเจน จนทนไม่ไหว รีบให้เธอออกมาจากอเวจีมหานรกขุมนั้น เพื่อพึ่งกระบวนการทางกฏหมาย ให้กฏหมายเอาผิด โดยเธอมีแผลฉีกเป็นรูลงไปที่ขมับใกล้คิ้วและตาด้านขวา หลังมีอาการปวด เดาะอย่างรุนแรง แขนและนิ้วช้ามีอาการปวดจากการฟกช้ำ แต่ทั้งนี้ ยังมีเรื่องดีอยู่ คือเด็กในครรภ์ปลอดภัย ทั้งนี้น้องผมยังบอกอีกว่า ฝ่ายชายยังได้ยืมเงินไป ราว 150000 บาท ยังไม่ได้คืนพร้อมทั้งท้าทาย ว่าถ้าอยากได้คืนเร็วให้ไปฟ้องเอาเอง ทั้งนี้ยังมีทรัพย์สินอื่นที่เสียหายอีกคือโทรศัพท์มือถือ และไอแพด รวมถึงฝ่ายชายเคยพยายามบังคับให้น้องสาวผมไปหาเงินเพื่อชำระค่าส่วนกลางหมู่บ้านด้วย จนตอนนี้ ผมได้พาน้องสาวไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้นแล้ว และ รอให้หมอบันทึกคดี ลงความเห็น เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อไป คืบหน้ายังไงผมจะอัพเดทอีกครับ ขอบคุณ คุณตำรวจ สน.สายไหมทุกท่านที่ให้ความร่วมมือและเป็นที่พึ่งให้ประชาชนครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก:www.siamnews.com
ที่มา :https://popoza.com/the-dog-was/
กดถูกใจ (Like) ติดตามข่าวสาร